• ตะลุยตลาดปลาซึกิจิ Tokyo สดอย่างกับอยู่ในทะเล

    ทริปตะลุยโตเกียวยังคงไม่จบคราวนี้ถึงทีไปตะลุยตลาดปลาซึกิจิ!!! ที่เป็นสถานที่ที่นักท่องทุกคนต้องมา และถึงแม้ส่วนประมูลปลาจะถูกย้ายไปที่ใหม่แล้ว แต่ตลาดปลาเดิมยังคงมีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของชำ และที่สำคัญร้านของสดละลานตาไปหมด มาถึงถิ่นของสดทั้งทีรับรองทั้งปลา หอย ปู ทูน่า ไข่หอยเม่น สดๆทั้งนั้น ชิ้นใหญ่เต็มปากเต็มคำ"อูนิ" หรือ "ไข่หอยเม่น" (กล่องเล็ก 1000 ¥ / กล่องใหญ่ เริ่มต้น 3500 ¥ ) หลายคนบอกว่ากลิ่นค่อนข้างแรง แต่เพราะความสด ความใหม่ของอูนิ ทำให้แทบไม่มีกลิ่นสักนิด ยิ่งทานคู่กับสาหร่ายช่วยทำให้อร่อยขึ้นไปอีก"หอยเชลล์ย่าง" ( ไม้ละ 500 ¥) แบบเสียบไม้ แม้จะมีแค่ไม้ละ 2 ชิ้น แต่หอยเชลล์ชิ้นใหญ่มาก ทั้งหอม ไม่เหนียว ฟินสุดๆ "ไข่หวานเสียบไม้" (ไม้ละ 100 ¥) อากาศหนาวๆแบบนี้ได้กินไข่หวานร้อนๆ หอมๆ คือที่สุดแล้ว มีหลายไส้ให้เลือกทั้งไส้เนื้อปูKani และ ไส้เนื้อกุ้งbi เป็นต้น เดินผ่านร้านนี้แวบๆถึงกับต้องแวะเลย เพราะ "HokkaidoOyster" (ชิ้นละ 600 ¥) ร้านนี้ใหญ่ยักษ์เกินมือไปอีก!!! กินกันแบบสดๆ แค่มีไม้จิ้มฟันก็ทานได้แล้ว เนื้อหอยนางรมเด้งดึ๋ง สู้ฟันมากค่ะทุกคน "ปลาไหลย่าง" (ไม้ละ 200 ¥) มา 1 ไม้ ร้านนี้ย่างกันสดๆที่หน้าร้าน ปลาไหลเนื้อนิ่ม หอมซีอิ๊ว ราดน้ำซอสจนชุ่มฉ่ำซึมเข้าไปถึงเนื้อปลา "ทูน่าย่าง" (ไม้ละ 500 ¥) ทูน่าชิ้นใหญ่ๆย่างบนเตาโรยด้วยเครื่องเทศหอมๆ ด้านนอกของทูน่าจะกรอบๆแต่ด้านในยังจะมีความฉ่ำของเนื้อทูน่าอยู่ร้านนี้ขายทูน่าทั้งร้าน เลยต้องจัด "ทูน่าดงบุริ" (ทูน่า 750 ¥ / ข้าวญี่ปุ่น กล่องละ 180 ¥) ผสมทูน่าทั้งแบบชิ้นและแบบสับราดบนข้าวญี่ปุ่น เนื้อทูน่าสีแดงสด มีลายมันแทรกอยู่ด้วย เนื้อเด้ง ชิ้นใหญ่ 

  • MiharaTofuten Omakase เต้าหู้ที่แรกของโลก!!!

    “Mihara Tofuten" ไม่ได้เป็นร้านเต้าหู้ธรรมดาจากญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เป็นร้าน Omakase เต้าหู้ที่แรกของโลก!!! ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น 100% แต่ละเมนูในคอร์สถูกคิดค้นขึ้นโดยเชฟอิมพอร์ตถึง 3 คน และแน่นอนว่าเมนูต่างๆไม่ได้มีแต่เต้าหู้เท่านั้น ยังมีเนื้อสัตว์ต่างๆเป็นส่วนประกอบหลัก หรือใครที่เป็น Vegan ก็สามารถเลือกคอร์สเฉพาะได้อีกด้วย!เมนูภายในคอร์ส"Tofu Bento" "Zaru Tofu" เต้าหู้ทอด เมนูซิกเนเจอร์จากญี่ปุ่น ขายดีถึงวันละ 2,000 ชิ้นทุกวัน! "Sanma Kabayaki" ปลาซันมะย่างและด้านล่างเป็นมันฝรั่งบดที่ทำจากเต้าหู้ "Sukiyaki" ซุปหัวหอมที่ใส่เนื้อวากิว A5 ลงไปกับเต้าหู้ "Somen" บะหมี่เย็น เส้นเหนียวหนึบ น้ำซุปหอมไปด้วยเต้าหู้

  • Yuzu Ramen Thailand ราเมนซุปส้มยูซุต้นตำรับจากญี่ปุ่น

    เปรี้ยวปากแจกพิกัดให้คนรักราเมนไปตามรอยร้านเปิดใหม่ในสยาม "Yuzu Ramen Thailand" ราเมนซุปส้มยูซุตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ รสชาติกลมกล่อม จัดจ้าน ที่ปรับสูตรมาให้ถูกปากคนไทยแบบไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น การตกแต่งร้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่นจำลองร้านให้เหมือนโอซาก้าเลยทีเดียว "Spicy Yuzu Tonkotsu Ramen" ซุปส้มยูซุทั้งหอมและรสชาติกลมกล่อม เลือกระดับความเผ็ดได้ถึง 200% เอาใจสายเผ็ดจี๊ดกันไปเลย"Mala Ramen""Truffle Ramen" ราเมนเห็ดทรัฟเฟิล หอมมากๆ"ข้าวหน้าหมูชาชูเคลือบซอส""เกี๊ยวซ่ามันม่วง"

  • Garaku Thailand สุดยอดซุปแกงกะหรี่ส่งตรงจากฮอกไกโด

    หากใครเคยเดินทางไปฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น คงคุ้นเคยกับเมนูซุปแกงกะหรี่กันอย่างแน่นอน และตอนนี้มีแฟรนไชส์ซุปแกงกะหรี่เจ้าดังจากฮอกไกโดอย่างร้าน "Garaku Thailand" มาเปิดในไทยแล้ว ที่ร้านจะเสิร์ฟซุปแกงกะหรี่ร้อนๆ รสชาติกลมกล่อม มีเนื้อสัตว์ให้เลือกหลากหลาย และยังเลือกระดับความเผ็ดได้ถึง 40 ระดับหลายคนยังคงเข้าใจว่า ซุปแกงกะหรี่ และ ข้าวแกงกะหรี่ เป็นแบบเดียวกัน แต่จริงๆแล้วซุปแกงกะหรี่ น้ำซุปจะมีความใสกว่าแต่รสชาติเข้มข้นซดได้คล่องคอ หอมกลิ่นเครื่องเทศ น้ำซุปไม่ข้นเหนียวแบบข้าวแกงกะหรี่เมนูขายดีอันดับ 1 ของร้านคือ "ซุปแกงกะหรี่หมูสามชั้นตุ๋น" หมูสามชั้นตุ๋นกับซอสสูตรลับนานกว่า 4 ชม. จนนุ่มแทบละลายในปาก"ซุปแกงกะหรี่ไก่" เมนูดั้งเดิมสุดฮิตที่ญี่ปุ่น มาพร้อมกับไก่ชิ้นโต "ซุปแกงกะหรี่เนื้อลูกแกะนิวซีแลนด์" สูตรต้นตำรับจากฮอกไกโด อัดแน่นไปด้วยเครื่องเทศกว่า 20 ชนิด"สลัดปูนิ่ม" "ยำแซ่บแซลมอน"ใครอยากมาลองซุปแกงกะหรี่สุดเข้มข้นแบบนี้ มากันได้ที่ร้าน "Garaku Thailand" ซอยจุฬา 11 

  • Chez Shibata 365 ขนมหวานฝรั่งเศสสไตล์ญี่ปุ่น

    ใครที่ชอบขนมหวานหน้าตาสวยๆสไตล์ฝรั่งเศสแต่ชอบความละมุนสไตล์ญี่ปุ่น ต้องแวะมาที่ "Chez Shibata 365" ร้านขนมหวานชื่อดังจากนาโกย่าประเทศญี่ปุ่นโดยเชฟทาเคชิ ชิบาตะ ที่มีการพัฒนาสูตรขนมให้ถูกปากคนไทยในบรรยากาศสบายๆโทนพาสเทล Recommended Menu"Chu Brulee" ชูครีมเผาสอดไส้คัสตาร์ดวนิลาแท้ๆ เสริมด้วย Salted Caramel เข้มข้น ท็อปด้วยความกรอบของ Almond Tulie ที่กริลด้วยไฟอุ่นๆ "Rare Cheese Mousse" ครีมชีสตัดเลี่ยนด้วยไส้แยมราสเบอร์รี่ "Caramel High" เอแคลร์คาราเมลสูตรเด็ดสอดไส้คาราเมลคัสตาร์ดครีมนุ่มๆ ด้านบนมีเนยเค็มที่เติมรสชาติความหอมมัน ก่อนตัดรสด้วยเกลือหิมาลายัน "Chocolate Signature" มูสเค้กที่อัดแน่นความเข้มข้นของช็อกโกแลตพรีเมี่ยม ด้านในสอดไส้ Pistachio Cream และ Raspberry Jam แถมด้วย Milk Chocolate Mousse "Yuzu Tart" ทาร์ตครีมชีสเนื้อเนียนที่ผสมเข้ากับเนื้อส้มยูซุ"Chocolate Banana" "Mont Blanc" มาตามรอยขนมหวานอร่อยๆกันได้ที่ร้าน "Chez shibata 365" โรงแรมHotel Nikko ชั้น 3 (โซน Ginza ทองหล่อ) ซอยสุขุมวิท55 เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11:00-21:00 น. โทร.095-632-4499

  • Freddie RiceCurry ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นท็อปปิ้งสไตล์ไทย

    ร้านริมทาง จานด่วน เสิร์ฟเร็ว สไตล์เอเชีย ต้องมาลองชิมข้าวแกงกะหรี่สไตล์เฟรดดี้ที่ร้าน "Freddie RiceCurry" ร้านข้าวแกงกะหรี่ฟิวชั่นไทย-ญี่ปุ่นที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร วิธีการโปรโมทร้านก็กวนได้ใจ จากจุดเริ่มต้นขายข้าวแกงกะหรี่สูตรไทยๆแบบเดลิเวอรี่จนเปิดหน้าร้านของตัวเองให้ลูกค้าได้เข้ามานั่งทานกันอย่างจริงจัง ลูกค้าประจำหลายคนรู้จักร้านนี้จากเพจเฟสบุ๊คเพราะภาพโปรไฟล์เพจร้าน Freddie RiceCurry ที่เป็นเหมือนมีมล้อเลียนกระแสต่างๆจนคนในโลกคนออนไลน์ให้ความสนใจ แกงกะหรี่ที่ร้านนี้จะไม่เลี่ยน ไม่มีครีม-เนยแล้วยังมีท็อปปิ้งไทยๆอย่างผัดเผ็ดเนื้อโคขุน ซี่โครงหมูชาชู และอื่นๆอีกมากมายหลายหน้า สามารถเลือกความเผ็ดได้ถึง 3 ระดับ"ข้าวเเกงกะหรี่โคขุน (175 บาท)""ข้าวเเกงกะหรี่หมูกรอบผัดพริกเกลือ (165 บาท)" "ข้าวเเกงกะหรี่คอหมูย่าง (155 บาท)""ข้าวแกงกะหรี่กะเพราเป็ดหนังกรอบ (165 บาท)" "ข้าวเเกงกะหรี่หมูชาชู (165 บาท)""ข้าวแกงกะหรี่หมูสับผัดไข่เค็ม (165 บาท)"ตามรอยความอร่อยกันได้ที่ร้าน Freddie RiceCurry เฟรดดี้ ข้าวแกงกะหรี่ ซอยลาดพร้าววังหิน 34 เปิดตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. (หยุดทุกวันพุธ) เบอร์โทร 09-7097-9523

  • OHACHI ข้าวหน้าหมูย่างไซส์ยักษ์ย่านอารีย์

    วันนี้ขอพาเหล่าสายกินแหลกมาวัดกระเพาะกันที่ "OHACHI" กับเมนูดังข้าวหน้าหมูย่างสไตล์ญี่ปุ่นไซส์ยักษ์ หมูย่างเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำซอสหอมๆ หวานๆ เค็มๆ ที่มีให้เลือกถึง 4 ไซส์ไซส์อนุบาล (128 บาท) / 300 กรัม ไซส์มาตรฐาน (168 บาท) / 500 กรัม ไซส์มาสเตอร์ (238 บาท) / 800 กรัมไซส์ด็อกเตอร์ (388 บาท) / 1,300 กรัมใครอยากมาลองหมูย่างสไตล์ญี่ปุ่นชามยักษ์มากันได้ที่ร้าน "OHACHI" โครงการสนั่นนภา ติด BTS อารีย์ รอบเช้าเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. และรอบเย็นเปิดตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์)สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 09-2538-9449

  • KOKO Japanese Restaurant ร้านลับโอมากาเสะ

    "KOKO Japanese Restaurant" ร้านอาหารญี่ปุ่นโอมากาเสะลับๆ ใจกลางย่านสาธรด้วยเชฟมากประสบการณ์ในวงการอาหารญี่ปุ่นมาถึง 30 ปี กับโอมากาเสะคอร์ส 12 คำราคา 999++ บาท และโอมากาเสะคอร์ส 17 คำ ราคา 1,499++ บาทเท่านั้น!"Chawan Muchi" "Tosa Zaru" เต้าหู้สดนำเข้า ซอสงา "Shi-Ma Aji" ซูชิปลาเนื้อขาว ปลาชิมาอาจิ "Madai" ซูชิมาได (ปลาเนื้อขาว) "Hirame" ซูชิ ฮิมาเมะ ปลาตาเดียว ท็อปด้วยผิวส้ม และโชยุ "Hamachi" ปลาฮามาจิ ซอสสาหร่ายวาซาบิดอง "Hotate" หอยเชลย่างห่อด้วยสาหร่ายย่าง "Ama Ebi" "Uni หรือ Matsuzaka" ไข่หอยแม่น "Toro Sanwitch" แซนวิชปลาโทโร่ "Akami" ซูชิปลาเนื้อแดง "Tamago Bate" ขนมไข่ ไอศกรีม และ ผลไม้เมล่อนนอกจากเมนูโอมากาเสะแล้วยังมีเมนูอลาคาสอีกหลากหลายให้เลือก"Lobter Cheese" ล็อปเตอร์ที่ยกมาทั้งตัวย่างแล้วราดด้วยซอสเมนาติกสูตรของทางร้าน"Unaki Hoba Yaki" ปลาไหลญี่ปุ่นย่างถ่าน ทานคู่กับข้าวไข่ดองซีอิ้ว"Kyoza Cheese" เกี๊ยวซ่าไส้หมูราดด้วยชีสเยิ้ม ๆ"ร้าน KOKO Japanese Restaurant " อยู่ที่อาคารหะรินธร ถนนสาทร  ร้านเปิดทุกวัน วันละ 2 รอบ คือ ช่วงเช้าเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. ช่วงเย็นเปิดตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร.08-8627-8264

  • Cow Cow Kitchen by Tokyo Milk Cheese Factory

    ใครอยากทานนมและชีสต้องมาลองกันที่ "Cow Cow Kitchen by Tokyo Milk Cheese Factory" แบรนด์เบเกอรี่ในเครือเดียวกันกับ Tokyo Milk Cheese Factory จากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยจะเน้นคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมจากทั่วทุกมุมโลกมาเป็นส่วนประกอบในการทำขนม และมีวัตถุดิบหลักเป็นนมจากฮอกไกโด และมาสคาร์โพนชีสจากอิตาลีการตกแต่งร้านจะให้เป็นเหมือนครัวที่หอมกรุ่นไปด้วยขนมอบสดใหม่ในทุกวันและทางร้านการันตีเลยว่าอร่อยเหมือนบินไปทานที่ญี่ปุ่น เมนูแต่ละอย่างก็เด็ดๆ ทั้งนั้นเลย"Cow Cow Ice" ไอศกรีมรสนม แบบถ้วย 145 บาท, แบบโคน 155 บาท และไอศกรีมรสชีส/มิกซ์ แบบถ้วย 155 บาท, แบบโคน 165 บาท"Milk Cheese Cookie" (10 ชิ้น 490 บาท, 20 ชิ้น 850 บาท) มีให้เลือกุถึง 3 รส Salt and Camembert, Honey and Gorgonzola และ Chocolat & Mascarpone"Milk Cheese Pie" รสนมและช็อกโกแลต 85 บาท, รสสตรอว์เบอร์รี่ 95 บาท"Hojicha Wipped Cheese Boba"ใครชอบทานนมและชีสอย่าลืมมาลองกันที่ร้าน "Cow Cow Kitchen by Tokyo Milk Cheese Factory" สยามพารากอน ชั้น G เปิดตั้งแต่เวลา 09.30-22.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-2796-1839

  • Ramenga Gold ราเมงปันอิ่ม อิ่มทั้งผู้ให้และผู้รับ

    "Ramenga Gold" ย่านพระราม 9 เริ่มต้นจากความชอบส่วนตัวของเจ้าของร้านจนกลายเป็นราเมงที่คับแน่นไปด้วยคุณภาพแต่ราคาย่อมเยาเข้าถึงได้ง่ายนอกจากนี้ที่ร้านยังมี "โครงการปันอิ่ม" ที่จะแจกราเมงฟรีวันละ 6 ชาม เพราะอยากให้ทุกคนได้มาอร่อยกับราเมงของทางร้าน โดยที่หยิบถ้วนชามราเมงเข้ามาในร้านแล้วก็มายื่นให้กับพนักงานภายในร้านก็สามารถทานฟรีได้เลย หรือหากลูกค้าท่านใดสนใจร่วมโครงการปันอิ่มก็สามารถจ่ายค่าราเมงเพิ่มอีก 1 ชาม เพื่อปันอิ่มให้ผู้อื่นต่อไป และภายในร้านยังมีจุดแปะโพสต์อิทไว้สำหรับเขียนขอบคุณเหล่าผู้ให้ที่เป็นเรื่องราวระหว่างผู้ให้และผู้รับเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน  "Tonkotsu Ramen (80 บาท)" ราเมงหมูชาชู ไข่ยางมะตูม หอมน้ำซุปสูตรเด็ดของทางร้าน เลือกทานได้ทั้งเส้นแบบญี่ปุ่นและเส้นราเมง"ราเมงต้มยำกุ้ง (120 บาท)" เมนูนี้มีเฉพาะที่สาขาโกลด์เท่านั้น น้ำซุปต้มยำมันกุ้งข้นๆ เสิร์ฟพร้อมกุ้งสด เส้นก็สามารถเลือกได้ อร่อยได้แบบสไตล์ไทยๆอีกหนึ่งเมนูขายดี "ข้าวหน้าหมูชาชูพ่นไฟ (100 บาท)" หมูชาชูนำไปกริลล์ไฟแล้วราดซอสสูตรเฉพาะ เด็กๆ จะชอบเมนูนี้มากสำหรับาสายราเมงหรือใครอยากมาพิสูจนราเมงรสชาติต้นตำรับที่ราคาจับต้องได้ที่ร้าน "Ramenga Gold" สาขาพระราม 9 ซอย 41 ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-6366-3346

  • I am Curry ข้าวแกงกะหรี่น้องใหม่ย่านอารีย์

    "I am Curry" หรือ ฉันคือ (แกง) กะหรี่ ร้านแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่ "ปอนด์ - สหดล ตันตราพิมพ์" เชฟเจ้าของร้านผู้เข้าแข่งขันมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ซีซัน 3 ผู้ชื่นชอบและถูกใจในความละมุนของรสแกงกะหรี่ญี่ปุ่น จึงได้แรงบันดาลใจคิดค้นจนได้สูตรแกงกะหรี่โฮมเมดในสไตล์ของตัวเองแม้ I am Curry จะอยู่บนชั้น 2 ของตึกเล็กๆ ในซอยอารีย์ แต่ทุกคนก็จะได้เห็นเชฟปอนด์ลงมือทำแกงกะหรี่แต่ละจานอย่างตั้งใจแบบใกล้ชิดติดขอบโต๊ะกันเลยทีเดียว และด้วยความใส่ใจในวัตถุดิบแม้กระทั่งเลือกใช้ข้าวญี่ปุ่นต้นฤดูเพื่อสัมผัสนุ่มเหมาะกับทานคู่กับแกงกะหรี่ ส่วนน้ำแกงกะหรี่มีทั้งเบสจากเนื้อและเบสผัก เนื้อแกงกะหรี่จะเนียนเพราะใช้เวลาเคี่ยวนานถึง 48 ชั่วโมง เพื่อให้รสชาติของเครื่องเทศทุกตัวออกมาครบ ความเผ็ดมีให้เลือกระดับเดียวแต่ทางร้านมีพริกญี่ปุ่นให้เติมความเผ็ดเองได้ สามารถทานได้ง่ายทุกเพศทุกวัย นอกจากชื่อร้านที่แปลกใหม่แล้วชื่อเมนูแต่ละจานก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ถือเป็นกิมมิคน่ารักๆ ของร้าน"ข้าวแกงกะหรี่อ๊วนอ้วน (199 บาท)" ใช้สันนอกไม่ติดมัน มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ชุบแป้งทอด บวกกับเทคนิคการทอดข้างนอกจึงกรอบแต่ข้างในยังมีความนุ่ม และ "ข้าวแกงกะหรี่มีปีก (189 บาท)" ใช้ไก่ส่วนสะโพก เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ"ข้าวแกงกะหรี่น้องจุ้ง (209 บาท)" ข้าวแกงกะหรี่กุ้ง"ป๊อปอายไวท์ครีมลาวา หรือ ผักโขมไวท์ครีม (49 บาท)/ เป็น Topping)""ร้าน I am Curry ฉันคือ (แกง) กะหรี่" อยู่ในซอยอารีย์ 1 เปิด 10.30-20.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2120-7589 หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Line@: @iamcurrysince2019

  • Chubbies ซูชิคัพอัดแน่นเต็มแก้ว

    กักตัวอยู่บ้านกันนานๆ ก็อาจจะคิดถึงอาหารญี่ปุ่นกันบ้าง วันนี้เปรี้ยวปากจะพาไปฟินแบบไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่นกับซูชิคัพจากร้าน "Chubbies" จัดให้แน่นคัพแบบจุกๆ ให้หายคิดถึงญี่ปุ่นกันเลย ร้านนี้เสิร์ฟซูชิมาในแก้ว ทานง่าย ถือสะดวก เหมาะกับคนที่เร่งรีบมากๆ และวัตถุดิบส่วนใหญ่ก็อิมพอร์ตมาจากญี่ปุ่นอีกด้วยร้าน Chubbies เกิดจากการที่อยากจะทำร้านอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบใหม่และสังคมในสมัยนี้ที่มีความเร่งรีบจึงเกิดไอเดียทำ 'ซูชิคัพ' ขึ้นมา ทั้งสะดวกและสามารถทานได้ง่าย พกไปได้ทุกที่ และที่สำคัญเน้นใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยมในราคาที่จับต้องได้ วัตถุดิบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ปลาไหล, ไข่ปลาแซลมอน, ผงโรยข้าวต่างๆ ก็นำเข้ามาจากญี่ปุ่นทั้งหมด ส่วนปลาแซลมอนก็ส่งตรงมาจากประเทศนอร์เวย์เลย"Double Salmon (180 บาท)" เมนูขายดี จัดเต็มด้วยแซลมอน 2 ชั้น เพิ่มความอร่อยด้วยซอสมิโซะไซเกียวสูตรโฮมเมดของทางร้าน"Signature Ikura (380 บาท)" ข้าวคลุกสาหร่ายงาคั่ว เพิ่มความหอมด้วยเนยทรัฟเฟิลและท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอนแน่นๆ ถึง 6 ช้อน"Unagi Combo (190 บาท)" ข้าวคลุกผงปลาไหล ท็อปด้วยปลาไหลและไข่หวาน เพิ่มความอร่อยด้วยซอสเทอริยากิสูตรโฮมเมดของทางร้านที่เชฟเป็นคนคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง รับรองอร่อยไม่ซ้ำใคร"SalmonXIkura (190 บาท)" ข้าวคลุกไข่กุ้งกับแซลมอนแบบจัดเต็ม และสามารถเลือกได้ด้วยจะทานแซลมอนแบบไหน จะสุกหรือดิบสามารถสั่งได้ และท็อปด้วยไข่ปลาฟูๆ"Classic Salmon (169 บาท)" เมนูนี้จะเหมือนกับตัว SalmonXIkura เลย เพียงแค่เปลี่ยนจากไข่ปลาเป็นไข่กุ้ง สำหรับคนชอบไข่กุ้ง แก้วนี้โดนใจแน่นอนไปพิสูจน์ความอร่อยของเจ้าซูชิคัพกันได้ที่ร้าน "Chubbiesbkk" ชั้น 1 Lido Connect ร้านเปิดตั้งแต่ เวลา 11.00-18.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-6879-1941

  • Kojiro Japanese Cuisine

    "Kojiro Japanese Cuisine" ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีอยู่ทั้งหมด 2 สาขา โดยสาขาแรกอยู่ที่ Maxvalu คู้บอน และอีกสาขาตั้งอยู่ที่ถนนเทพรักษ์ วัชรพล โดยจุดเริ่มต้นของร้าน Kojiro Japanese Cuisine เกิดจากความชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นของ 'คุณผึ้ง-วราภรณ์ เพิ่มพรศรี(Co-Founder)' และต้องเดินทางไกลเพื่อไปทานในแต่ละครั้งจนเกิดอยากทำร้านอาหารญี่ปุ่นที่สามารถเดินทางง่าย อาหารอร่อย และมีคุณภาพ โดยที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัวทุกเพศทุกวัย และสามารถมาทานได้บ่อยๆ เพราะมีเมนูที่หลากหลายตอบโจทย์ความชอบของเหล่าลูกค้าวัตถุดิบของที่ร้านทั้งปลาและของสดต่างๆ นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น จากเมืองที่เป็นเจ้าแห่งความอร่อยของวัตถุดิบนั้นๆ จริงๆ และเชฟที่ร้านก็มีประสบการณ์ในการทำอาหารญี่ปุ่นมากว่า 14 ปี จึงมีวิธีการคัดสรรวัตถุดิบ และการรังสรรค์เมนูอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับให้ทุกคนได้ทานกัน"Monohoshi Zao Set (1,260 บาท)" ชื่อเมนูนี้ มีที่มาจากดาบซามูไรญี่ปุ่นที่ยาวที่สุด จึงเสิร์ฟมาพร้อมจานยาวอลังการ ซึ่งทางร้านคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศและรวบรวมความสด อร่อย แบบต้นตำรับของซูไว้ถึง 9 ชนิด ทั้งหมด 18 คำ แต่ละคำปั้นมาพอดีคำ วัตถุดิบสดใหม่ ในเซตมีทั้งฮามาจิ, แซลมอน, อากามิ, โฮตาเตะ, ซูชิหรือปลากะพงขาว, ฮอกกิหรือหอยปีกนก, กุ้งหวาน, แซลมอนไซเคียว และอิคุระ ปิดท้ายด้วยไข่หวานรสคาราเมล"Salmon Party Set (890 บาท)" เต็มอิ่มจุใจเน้นๆ กับเนื้อส่วนต่างๆ ของแซลมอน ทั้งแซลมอนซาซิมิ, แซลมอนสไลด์บาง, แซลมอนสับ และไข่แซลมอน เสิร์ฟมาในเซตขนาดใหญ่พิเศษ"Kani Miso (220 บาท)" มันปูนำเข้าสูตรพิเศษที่นำมาปรุงโดยเฮดเชฟของทางร้านซึ่งได้สูตรมันปูมาจากเชฟชาวญี่ปุ่น นำมาย่างไฟอ่อน ย่างกันตรงหน้าให้ได้ทานแบบร้อนๆ"Buta Nabe (300 บาท)" นาเบะหม้อร้อนสูตรพิเศษกับน้ำซุปหอมหวานที่ครบไปด้วยผักสดนานาชนิด พร้อมหมูที่ทางร้านคัดสรรมาอย่างดีและไข่ไก่แบบ Free Cage ที่ทานแบบดิบได้"Kajiro Salad (280 บาท)" สลัดที่เต็มไปด้วยปลาดิบสดใหม่ ชิ้นโตเต็มคำ เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดสูตรพิเศษ 2 รสชาติ จะทานแยกหรือทานแบบผสมก็เข้ากันอย่างลงตัว"Kojiro Roll (700 บาท)" โรลไส้เอ็นกาวะ อุนางิ และอะโวคาโด ท็อปด้วยฟัวกราส์นำเข้าจากฝรั่งเศส เพิ่มความสดชื่นด้วยเลมอนสดและไข่ปลาแซลมอน"Yakisoba (160 บาท)" ยากิโซบะกระทะร้อนสูตรพิเศษของทางร้าน เมนูเด็ดอีกหนึ่งเมนูกับเส้นโซบะที่เหนียวนุ่มกำลังดี ผัดเข้ากันกับเนื้อหมูสไลซ์และผักหลากชนิด ปรุงรสด้วยซอสผัดโคจิโร่และซอสผัดยากิโซบะ"Kojiro Japanese Cuisine" ตั้งอยู่บนถนนเทพรักษ์ วัชรพล ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-2686-8846

  • Boru ร้านอาหารญี่ปุ่น ดงบุริสารพัดหน้า

    เอาใจสาวกอาหารญี่ปุ่นในบรรยากาศแสนอบอุ่นที่ "ร้าน Boru" กับเมนูดงบุริ หรือข้าวหน้าต่างๆ ที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมรอย่างสร้างสรรค์ เน้นวัตถุดิบสดใหม่ อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ และส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นกันเลย'ร้าน Boru' ถือเป็นการขยายครัวมาจาก 'ร้าน Umami' ร้านอาหารญี่ปุ่นออนไลน์เจ้าเก่าที่บุกเบิกเมนูไข่ดอง Delivery ส่งความอร่อยถึงหน้าประตูบ้านมากว่า 8 ปี จึงมาเปิดหน้าร้านให้ลูกค้าได้มาทานกัน และคอนเซ็ปต์ร้านก็มาจากชื่อร้าน Boru ที่แปลว่า ชาม ในภาษาญี่ปุ่น ร้านจึงเสิร์ฟเมนูเป็นชาม หรือก็คือเมนูดงบุริ ที่มีให้เลือกสารพัดหน้าเมนูดงบูรินอกจากมีหน้าต่างๆ ให้เลือกมากมายแล้ว ที่สำคัญก็คือข้าว ทางร้านนำเข้าข้าวมาจากเมืองนีงาตะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องข้าว ตัวข้าวมีความพิเศษเพราะเป็นข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ไม่เหมือนพื้นที่อื่นๆ ในญี่ปุ่น มีขั้นตอนการปลูกที่ใส่ใจ มีรสชาติอร่อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับข้าวญี่ปุ่นพันธุ์อื่นๆ บ่งบอกถึงการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ของญี่ปุ่น จึงทำให้ได้ข้าวที่หอม นุ่ม เหมือนนั่งทานอยู่ที่ญี่ปุ่น"Boru Tokushu (490 บาท)" โดดเด่นด้วยปลาอายุย่างเกลือ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งสายน้ำ ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น คัดมาแบบมีไข่ทุกตัว ปลาแต่ละตัวใหญ่ล้นชาม ท็อปด้วยเกลือเห็ดทรัฟเฟิล, แซลมอนสับจากนอร์เวย์, ทูน่าสับ, ไข่ปลาแซลมอนเกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากญี่ปุ่น, ไข่ดองพิเศษของทางร้าน และตกแต่งด้วยสาหร่ายเทมปุระ"Boru Takai Tempura (390 บาท)" ปลาไหลเทมปุระตัวใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางชาม ซึ่งตัวปลาไหลก็นำเข้าจากญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมกุ้งเทมปุระ 2 ตัว และผักต่างๆ ที่เชฟเลือกสรรมาแล้ว เท่านั้นยังไม่พอยังเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำเทมปุระสูตรเด็ดของทางร้าาน เกลือเห็ดทรัฟเฟิล และเกลือน้ำส้มยูซุ ให้ลูกค้าได้เลือกจิ้มเพื่อรสชาติที่หลากหลาย"Kani Miso (250 บาท)" มันปูย่าง เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ปรุงรสมาด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้าน มีความเข้มข้น หอม มันสาวกข้าวด้งห้ามพลาดกับร้านนี้เลย "ร้าน Boru" อยู่ในซอยพระรามเก้า 49 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-5695-2490

  • ห้องอาหาร Yamazato อาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมี่ยม

    "ห้องอาหาร Yamazato" ตั้งอยู่ในโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ชั้น 24 เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมี่ยมฝีมือ Master Chef จากญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่นี่ยังได้รับรางวัล "Michelin Plates" จาก Michelin Guide Thailand ถึง 3 ปีซ้อน ซึ่งรางวัล "Michelin Plates" ก็คือ ร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ปรุงอย่างพิถีพิถัน และที่ห้องอาหาร Yamazato ก็เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในโรงแรมเพียงแห่งเดียวในเมืองไทยที่ได้รับรางวัลนี้ในวันนี้เปรี้ยวปากเลือกเป็นอาหารชุดพิเศษ "ไคเซกิ เรียวกิ" แบบพรีเมี่ยมซึ่งจะเป็นรูปแบบหนึ่งของอาหารญี่ปุ่นที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ในพระราชวังอิมพีเรียล ถือเป็นตำนานอาหารญี่ปุ่นชั้นสูง"ไคเซกิ เรียวกิ" ประกอบไปด้วยอาหารที่เสิร์ฟต่อเนื่องกันหลายรายการและเน้นความพิถีพิถันสูงซึ่งในวันนี้จะได้ทานอาหารจากฝีมือเชฟระดับ Mater Chef คือ "เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ" ซึ่งเป็นเชฟประจำอยู่ที่ไทยนี่เอง "ไคเซกิ เรียวกิ" ของที่ห้องอาหารนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 6 เซต ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2,600 บาท ไปจนถึง 6,000 บาท และรูปแบบการทานคือทางเชฟจะค่อยๆ รังสรรค์ทำทีละเมนูมาเสิร์ฟให้ทานเริ่มกันด้วย "Zensai" เพื่อเป็นการล้างปากก่อนทานอาหาร ใน Appetizer จะมีทั้งหมด 3 เมนูด้วยกัน คือ เต้าหู้งาผสมถั่วอิดามาเงะ, Matsumae Zuke และเป็ดรมควันกับซอสไข่แดงต่อด้วยประเภทย่าง หรือ "Yakimono" ปลาสำลีญี่ปุ่นหมักในซอสมิโซะ เสิร์ฟพร้อมกับหอยเชลล์ย่าง"Tempura" มีทั้งปูหิมะ กุ้ง ปลาไหลทะเล"Sushi Kaiseki" ปลาของที่นี่สดมากเพราะนำเข้ามาจากตลาดโทโยสุ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นทุกวันปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง "ผลไม้กับพุดดิ้งงาดำ" แบบฟินๆใครที่เป็นสาวกอาหารญี่ปุ่นมาลองทานกันได้ที่ "ห้องอาหาร Yamazato" ที่โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ชั้น 24 ห้องอาหารเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-10.30 น. , 11.30-14.30 น. และ 18.00-22.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2687-9000

  • ห้องอาหาร Mezzaluna โรงแรมเลอบัว

    ห้องอาหารสุดโรแมนติกที่ฮอตที่สุดในตอนนี้ "ห้องอาหาร Mezzaluna" ชั้น 65 โรงแรม Lebua At State Tower กับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในมุมที่สวยที่สุดอีกหนึ่งมุม และนอกจากบรรยากาศจะดีๆ แล้ว ยังการันตีความอร่อยระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว อีกด้วยMezzaluna (แมซซาลูน่า) ในภาษาอิตาเลียนแปลว่า พระจันทร์เสี้ยว ห้องอาหารจึงถูกดีไซน์เป็นครึ่งวงกลม และยังสามารถเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ 180 องศา ในมุมที่สวยที่สุดอีกมุมห้องอาหาร Mezzaluna จะนำเสนออาหารในรูปแบบโอมากาเสะแบบญี่ปุ่น และใช้วัตถุดิบนำเข้าตามฤดูกาล แต่จะใช้เทคนิคการปรุงแบบฝรั่งเศสขั้นสูงโดยเมนูจะเปลี่ยนไปทุกๆ 3 เดือนAMAEBI "TARTAR" กุ้งหวานญี่ปุ่นหมักกับซอสยูซุ เสิร์ฟมาพร้อมขนมปังกรอบ แครอทพูเร ท็อปด้วยคาเวียร์ และมี Amaebi Granite (น้ำแข็งแห้งที่ทำจากกุ้ง)Zuwaigani "Dressed And Custard" ปูหิมะจากฮอกไกโด ปรุงเข้าด้วยกันกับมันปู พร้อมกับทาร์รากอน(เครื่องเทศฝรั่งเศส) และผักโขม เสิร์ฟในรูปแบบคัสตาร์ด และมีโฟมจากปูด้วยMurasaki Igai "Mariniere" เมนูนี้ชูโรงด้วยหอยแมลงภู่แบบฉบับชาวฝรั่งเศส โดยด้านล่างมีปลาแฮดด๊อกรมควันผสมกับเห็ด และราดด้วยซุปคาโบชะ(ซุปฟักทองญี่ปุ่น)Kue "Hatcho Miso Crusted" ทางห้องอาหารนำปลาเก๋าจากเมืองคิวชูมาพักไว้หนึ่งสัปดาห์เพื่อลดปริมาณน้ำในเนื้อ และเพิ่มความกลมกล่อม ด้านล่างเป็นเห็ดพอร์ชินี และ ฮัทโจ มิโสะ พูเร (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่นบดละเอียด) ด้านบนท็อปด้วยปลาหมึกหั่นเต๋า ข้าวพองจากหมึกดำ และราดด้วยน้ำหอมแดงเคี่ยวJean Larnudie's Foie Gras "Seared Sake Kasu Marinated" ฟัวกราส์หมักกับสาเกและงา เสิร์ฟพร้อมคื่นช่ายบด คื่นช่ายดองที่ขูดเป็นเส้น และตามด้วยคื่นช่ายหั่นชิ้น พร้อมราดด้วยน้ำซอสเป็ดNigata Marakami Wagyu "Grilled Over Bincho Charcoal" เนื้อวากิวจากนิงาตะย่างบนถ่านบินโจ (ถ่านบินโจคือถ่านขาวคุณภาพสูง) ด้านล่างคือร็อคเก็ตพูเร (ผักร็อคเก็ตบดละเอียด) และสำหรับวัวนิงาตะมีความพิเศษคือเป็นวัวที่ถูกเลี้ยงด้วยสาเกที่ส่งขายทั่วโลกปีละ 1,000 ตัว แต่จะถูกส่งมาที่ประเทศไทยเพียงเดือนละ 1 ตัวเท่านั้น Markin 70% Chocolate "Mille-Feuille" แป้งฟิโล วางเป็นชั้นสลับกับครีมช็อคโกแลตและครีมเก็นไมฉะ แต่งด้วยข้าวพองชาเขียว ตบท้ายด้วยไอศกรีมเก็นไมฉะสำหรับใครที่อยากจะมาสัมผัสความ Exclusive ระดับมิชลินสตาร์หรืออยากพาคนพิเศษมารับพิเศษสุดๆ ได้ที่ "ห้องอาหาร Mezzaluna" ชั้น 65  โรงแรม Lebua At State Tower ห้องอาหารเปิด ตั้งแต่เวลา 18.00-01.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2624-9555

  • TSUTA Japanese Soba Noodles

    อัพเดทร้านใหม่กับร้านราเมนชื่อดังจากญี่ปุ่น "TSUTA Japanese Soba Noodles" ร้านแรกของโลกที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ที่ส่งตรงความอร่อยมาถึงเมืองไทยแล้วกับเมนูซิกเนเจอร์ที่มีขายไม่เกินวันละ 50 ชามเท่านั้น ร้าน TSUTA Japanese Soba Noodles เกิดจากความชื่นชอบทำอาหารของเชฟ Yuki Onishi และสืบทอดการทำอาหารมาจากครอบครัวและบรรพบุรุษ เชฟจึงต้องการให้คนญี่ปุ่นได้ทานราเมนแบบญี่ปุ่นโดยฝีมือคนญี่ปุ่นแท้ๆ จึงเกิดเป็นร้านนี้ขึ้นมา โดยคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ต้องระบุอย่างเฉพาะจงเจาะลงไปว่าต้องมาจากที่ไหนบ้าง กว่าจะได้ราเมนหนึ่งชามจึงใช้วัตถุดิบจากหลากหลายที่ และโด่งดังจนทั้งคนญี่ปุ่นและคนไทยถ้าได้ไปโตเกียวก็ต้องไปต่อคิวชิมราเมนที่ร้านกันเป็นชั่วโมงร้าน TSUTA Japanese Soba Noodles สาขาแรกในไทยเปิดอยู่ใจกลางเมืองในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่นก็มีราเมนญี่ปุ่นแท้ๆ ให้มาทานกันถึงเมืองไทย"Tsuta Signature Shoyu Soba With Truffle Slice (680 บาท)" เมนูไฮไลท์ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ที่มีเพียงวันละ 50 ชามเท่านั้น เบสน้ำซุปเป็นซุปไก่ ปลา หอยตลับ ที่ต้มแยกแล้วนำมารวมกัน ปรุงด้วยซอสถั่วเหลืองที่สุกเต็มที่ซึ่งกว่าจะสุกนั้นใช้เวลานานถึง 2 ปี เมนูนี้มาพร้อมหมูคุโรบูตะและอิเบอริโคซึ่งเป็นส่วนพุงของหมูที่สั่งตรงมาจากสเปนเท่านั้น ส่่วนเส้นจะนำเข้าแป้งมาจากญี่ปุ่นและนำมารีดเป็นเส้นสดเอง ที่ขาดไม่ได้เลยคือ Black Truffle Oil พร้อม Truffle สไลซ์ด้านบนที่ทางร้านนำเข้ามาจากสเปน"Mala Tonkotsu Soba (270 บาท)" เมนูนี้จะมีเฉพาะสาขาในเอเชียเท่านั้น เบสของเมนูนี้จะเป็นทงคัตสึ ใช้ซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวนานกว่า 6-7 ชม. และใส่หมาล่า Hot Oil สูตรของทางร้านหยดลงไปเพิ่มความหอม"Tsuta Signature Shio Saba (370 บาท)" เบสของชามนี้คือซุปเกลือจากเกาะโอกินาวาและเกลือหินจากมองโกเลีย เพิ่มความหอมด้วย White Truffle Oilนอกจากราเมนแล้วยังมีเมนู Side Dish ให้เลือกอีกด้วย "Aburi Niki (150 บาท)" เมนูขายดีของทางร้าน โดยจะใช้หมูชาชูชิ้นหนานำไปย่างแล้วเอามาหั่นเต๋า ราดด้วยซอสหัวหอมโชยุที่จะช่วยเพิ่มรสความหวาน"ร้าน TSUTA Japanese Soba Noodles" อยู่ที่ Central World ชั้น 3 โซน Atrium ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2001-6030

  • Sousaku ร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 42

    "Sousaku" ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Traditional with Twisted ในซอยสุขุมวิท 42 ที่เสิร์ฟทั้งเมนูสุกียากี้แบบคันไซ ชาบู ซูชิ และทีเด็ดต้องยกให้กับเนื้อ A4 เนื้อสวย มันแทรกกำลังดี หอมนุ่ม ละลายในปากภายในร้านตกแต่งด้วยไม้ ได้กลิ่นอายแบบบ้านญี่ปุ่นโบราณ และด้านนอกก็ยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นอีกด้วย ทำให้ได้ฟีลเหมือนกับไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยจริงๆ"Kansai Style Sukiyaki Set (1,500 บาท)" เซตสุกียากี้สไตล์ญี่ปุ่นคันไซแท้ๆ วิธีการทำจะเริ่มด้วยการผัดผักกับสาเกก่อน แล้วจึงเติมซุปสุกี้รสเข้มข้นของทางร้านลงไป โดยในเซตจะมีไข่ไก่ให้เลือกทั้งหมด 4 ใบ ซึ่งเป็นไข่ออร์แกนิคที่เลี้ยงด้วยผักผลไม้ในฟาร์ม เป็นไข่ Mori Tama จาก ISE ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกจัดให้เป็นอันดับ 1 ของไข่สำหรับการกินสุกียากี้ของญี่ปุ่นด้วย"Uni Lobster Sake Shabu Set (2,499 บาท)" ชาบุเซตที่มาพร้อมล็อบสเตอร์ วิธีการทานแนะนำให้เริ่มทานจากเนื้อหมูก่อน ค่อยใส่ล็อบสเตอร์เพื่อเปลี่ยนรสชาติน้ำซุป ปิดท้ายด้วยการใส่ อูด้ง อูนิ หอยนางรม ปลาฮามาจิ สาหร่ายคอมบุ และผิวส้มยูซุ ตามลำดับ"Sashimi Ice Dome (1,999 บาท)" เซตซาชิมิที่เสิร์ฟมาในโดมน้ำแข็งเพื่อคงความสดใหม่เอาไว้ ข้างในโดมอัดแน่นไปด้วย โอโทโร, ชูโทโร, ฮอนอากามิ, แซลมอนโทโร, หอยโฮตาเตะ, ไข่ปลาแซลมอน และปลาเนื้อขาวชิมะอาจิอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ "Edomae Sushi Style" ซูชิพรีเมี่ยมที่มีหน้าให้เลือกกว่า 21 หน้า"Kanimiso Kamameshi (690 บาท)" เมนูนี้นำเทคนิคการปรุงแบบเกาหลีเข้ามาผสมผสาน โดยใช้ข้าวญี่ปุ่นคลุกด้วยมันปูสูตรของทางร้าน รองด้วยไข่กุ้ง ท็อปด้วยเนื้อปูหิมะและไข่แซลมอน"Zuwaikani Miso Salad (690 บาท)" ผัดสลัดสดๆ ราดด้วยมันปูสูตรเฉพาะของทางร้าน ท็อปด้วยเนื้อปู Zuwaigani ราชินีแห่งปูของญี่ปุ่นใครที่ชอบทานสุกียากี้ ชาบู ก็แวะมากันได้ที่ "ร้าน Sousaku" อยู่ในซอยสุขุมวิท 42 ร้านเปิดวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 12.00-15.00 น./17.00-22.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-2424-2822

  • Senryoku ร้านข้าวแกงกะหรี่จัดเต็มย่านพญาไท

    อีกหนึ่งร้านเด็ดไม่ควรพลาดในย่านพญาไท เอาใจสาวกข้าวแกงกะหรี่ที่ "ร้าน Senryoku" กับคอนเซ็ปต์จัดหนักจัดเต็ม จัดเต็มทั้งท็อปปิ้งที่มีให้เลือกเยอะมาก และน้ำแกงกะหรี่สุดเข้มข้นที่ราดลงบนข้าวญี่ปุ่นอันดับ 1 เติมฟรีไม่อั้นแบบจัดเต็ม'ร้าน Senryoku'  ที่ชื่อร้านแปลว่า จัดเต็ม! เป็นร้านแกงกะหรี่เล็กๆ ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งมีที่นั่งเพียงไม่กี่ที บรรยากาศมีกลิ่นอายเหมือนไปนั่งทานร้านสตรีทฟู้ดที่ญี่ปุ่น ที่ร้านเป็นครัวเปิดทำให้ลูกค้าที่นั่งที่ร้านได้กลิ่นหอมของเครื่องแกงไปด้วย ส่วนเคล็ดลับความอร่อยของร้านจะอยู่ที่ตัวน้ำแกงกะหรี่ รสเข้มข้น จัดจ้านแบบเผ็ดร้อนนิดๆ ตัวน้ำแกงเคี่ยวกับเนื้อและหมูแยกกัน ได้ความหอมกลมกล่อมจากผักผลไม้หลากชนิด ทานได้ง่ายไม่เลี่ยนและอีกไฮไลท์ของร้านคือวัตถุดิบที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อรวมถึงข้าวญี่ปุ่นอันดับ  จากจังหวัดนีงาตะ ที่มีความหอม เหนียว นุ่ม ลูกค้าก็เติมข้าวฟรีได้ไม่อั้นอีกด้วยเริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์ "ข้าวแกงกะหรี่ จัดเต็ม 1 (258 บาท)" สามารถเลือกท็อปปิ้งได้ 4 หน้า จาก 8 หน้า คือ หมูทงคัตสึ, เนื้อตุ๋น, กุ้งเทมปุระ, เนื้อแฮมเบิร์ก, หมูตุ๋น, ไข่ดาว, ผักทอด"ข้าวแกงกะหรี่เนื้อสเต๊กวากิวออสเตรเลีย (248 บาท)" เนื้อวากิวออสเตรเลีย เป็นเนื้อเซอร์ลอยน์นุ่มมีมันแทรก ย่างมีเดียมแรร์ โรยเกลือหิมาลัยเพิ่มรสชาติ ทานคู่กับข้าวญี่ปุ่นคือฟินแน่นอน"ข้าวแกงกะหรี่เนื้อแฮมเบิร์ก (248 บาท)" เนื้อแฮมเบิร์กโฮมเมด ปั้นมือลูกต่อลูก เป็นเนื้อวากิว 70% หมู 30% น้ำแกงกะหรี่เนื้อเข้มข้น เผ็ดร้อน เคี่ยวจนเนื้อละลายไปกับน้ำแกงเลยเมนูทานเล่นขายดีของทางร้าน "คาเระปัง (ชิ้นละ 45 บาท/กล่องละ 180 บาท)" ขนมปังไส้แกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่น สูตรเฉพาะของทางร้าน ทีเด็ดอยู่ที่น้ำแกงกะหรี่ฉ่ำๆ ที่ราดมารอบๆมาฟินกับแกงกะหรี่สุดเข้มข้นแบบนี้ได้ที่ "ร้าน Senryoku" อยู่ระหว่างอารีย์ ซอย 2 และ ซอย 3 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-9357-3456

  • Rintaro ไอศกรีมเจลาโต้โฮมเมดสไตล์ญี่ปุ่น

    "Rintaro Thailand" ร้านไอศกรีมเจลาโต้สัญชาติญี่ปุ่นที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยพหลโยธิน 8 รังสรรค์ความอร่อยโดยเจ้าของร้านและควบตำแหน่งเชฟชาวญี่ปุ่น 'คุณ Shintaro' กับไฮไลท์ของร้านคือรสชาติไอศกรีมที่มีให้เลือกกว่า 18 รสชาติต่อวัน ที่สำคัญวัตถุดิบหลักยังนำเข้าจากแหล่งที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นสาขาแรกของ Rintaro อยู่ที่จังหวัดชิบะ และที่ซอยพหลโยธินเป็นสาขาที่ 2 ในประเทศไทยแล้ว คอนเซ็ปต์ของร้านจะเน้นความสดใหม่ของไอศกรีม เน้นความสดชื่นของผลไม้สด และทุกตัวเป็นสูตรที่คุณ Shintaro เจ้าของร้านคิดเองทั้งหมด โดยมีกว่า 18 รสชาติต่อวัน และทุกๆ ต้นเดือนจะมีรสใหม่ให้ลูกค้าได้ลองเสมอ รวมๆ กว่า 300 รสชาติที่มีออกมา และพิเศษคือทุกรสชาติเป็นโฮมเมด ไม่ใส่น้ำตาลแต่ใช้ความหวานจากน้ำผึ้งแท้'ร้าน Rintaro' มีความตั้งใจในการทำร้านขึ้นมาเพื่อส่งเสริมเกษกรนเมืองชิบะ โดยเน้นการทำไอศกรีมเจลาโต้จากวัตถุดิบต่างๆ ตามฤดูกาลในเมืองชิบะ เมื่อมาเปิดสาขาในไทยก็ยังคงร่วมมือเกษตกรไทยจากวัตถุดิบของดีในท้องถิ่น เช่น เสาวรส จากเชียงราย, โกโก้ จากชุมพรส่วนไอเดียการตกแต่งร้านจะเน้นความเป็นมินิมอล ให้รู้สึกเป็นสไตล์ญี่ปุ่นและใช้โทนสีขาวเน้นความเรียบ สบายตา เริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์ มาในโคนวาฟเฟิล มีให้เลือก 2 รสชาติ คือ รสเมเปิล และ รสโกโก้ สามารถเลือกไอศกรีมได้ 2 รส (120 บาท)- รส Yuzu Milk ส้มยุสุส่งตรงมาจากจังหวัดโคจิ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงเรื่องส้มยูสุอยู่แล้ว ผสมกับนมจากฮอกไกโด- รส Cassis Orange ส้มผสมแบล็คเคอร์แรนท์ซอสโฮมเมด อีกหนึ่งรสซิกเนเจอร์ของร้าน- รส Camembert Cheese & Mixed Nuts Praline's การ์มองแบร์ชีส นำเข้าจากฝรั่งเศส ผสมอัลมอนด์และวอลนัท- รส Hojicha with Mochi ชาเขียวโฮจิฉะ จากจังหวัดไอจิ ซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นเรื่องชาเขียวมากๆ- รส Japanese Sweet Potato นำเข้ามันหวานจากจังหวัดอิบารากิ- รส Black Sesame Mochi เมนูขายดีในซีรีย์ของโมจิมาทานไอศกรีมอร่อยๆ กันได้ที่ "ร้าน Rintaro Thailand" สาขาพหลโยธิน อยู่ซอยพหลโยธิน 8 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-2353-5647

  • Nomisuke คาเฟ่ญี่ปุ่นสุดฮิตย่านบางแสน

    ยกญี่ปุ่นมาไว้ที่บางแสนกับ "ร้าน Nomisuke" คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงเป็นกระแสในโซเชียล ดังไกลจนสำนักข่าวญี่ปุ่นมาทำข่าวเลยเพราะเหมือนยกเอาเมืองโตเกียวขนาดย่อมมาไว้ที่นี่ รับรองถ่ายรูปสวยทุกมุม"ร้าน Nomisuke" เกิดจากการรวมตัวของ 'คุณนายด์' เจ้าของร้านและเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบในความเป็นญี่ปุ่น ทั้งอาหาร บรรยากาศ และวัฒนธรรม จึงเกิดไอเดียเอาความชอบมาทำเป็นร้าน โดยใช้เวลาประมาณ 8 เดือนจึงเกิดเป็นร้านนี้ขึ้นมา ซึ่งภายในร้านสามารถ่ายรูปได้ทุกมุมเลย ทั้งมุมป้ายรถเมล์ที่มีตู้กดน้ำอัตโนมัติ มุมถนนที่มีไฟแดง มุมก่อสร้างที่ลังสีเหลือง มุมรถเข็นสไตล์ยาไต ซึ่งทุกมุมถ่ายแล้วเหมือนอยู่ญี่ปุ่นจริงๆ เลยทีเดียวทางร้านจะแบ่งเวลาเปิดออกเป็น 2 ช่วง ในช่วงเช้าจะเป็นธีม 'Nomisuke Matcha' จะเน้นขายเครื่องดื่มพวกชาเขียวและขนมหวานอย่างไทยากิ ส่วนช่วงเย็นจะเป็นธีม 'Nomisuke Ramen' มีทั้งราเมง เกี๊ยวซ่า ทาโกะยากิ และอื่นๆ อีกมากมาย"Taiyaki Red Bean (60 บาท)" ขนมรูปปลาไส้ถั่วแดงกวน "Matcha Coconut (90 บาท)" ใช้ผงมัทฉะจากเมืองชิซึโอกะ รสชาตินุ่มลึก หอมละมุน ผสมกับน้ำมะพร้าวจากชาวสวนในบางแสน"Premium Matcha Latte (130 บาท)" ใช้ผงมัทฉะพรีเมี่ยมจากเมืองอุจิ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาที่ดีที่สุดอีกแห่งในประเทศญี่ปุ่น "Taiyaki Custard (60 บาท)" แป้งที่ทำเป็นสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง กรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ด้วยคัสตาร์ดเนื้อเนียนมาถ่ายรูปให้หายคิดถึงญี่ปุ่นกันได้ที่ "ร้าน Nomisuke" อยู่บางแสนสาย 1 ใกล้ 7-11 หาดวอนนภา ร้านเปิดทุกวัน โซน Nomisuke Match 09.00-17.00 น. และโซน Nomisuke Ramen 18.00-24.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-4561-6770

Follow us on INSTAGRAM